Albedo/เนื้อเรื่อง


Albedo/เนื้อเรื่อง

Albedo – นักเล่นแร่แปรธาตุที่ตอนนี้ตั้งรกรากอยู่ใน Mondstadt และทำงานให้กับกองอัศวินแห่ง Favonius
ไม่ว่าจะ “อัจฉริยะ”, “องค์ชายชอล์กขาว” หรือ “หัวหน้าฝ่ายสืบสวน” เขาไม่สนใจในเรื่องของลาภยศและชื่อเสียงเท่าไหร่ แต่มุ่งเน้นไปที่หัวข้อการวิจัยเท่านั้น
ความมั่งคั่งและเส้นสายไม่ใช่เป้าหมายของเขา สิ่งที่เขาปรารถนาที่จะควบคุมนั้น ก็คือความรู้อันไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

ข้อความจากออฟฟิเชียลเว็บไซต์

อุปนิสัย

อัลเบโด้ถูกมองว่าเป็นบุคคลที่เป็นมิตรและเป็นที่นิยมใน Mondstadt ทั้งยังเป็นอัจฉริยะในการเล่นแร่แปรธาตุ และมุ่งแสวงหา “ความจริง” ของโลก Teyvat ตามคำขอของอาจารย์ ทั้งยังมีความสามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตได้ด้วยพรสวรรค์การเล่นแร่แปรธาตุ อัลเบโด้ยังสามารถเข้ากับเด็กอย่าง Klee ได้ดี ซึ่งบอกว่าเขาเป็นพี่ชายที่ใจดีและอดทน ในขณะที่อัลเบโด้มองว่าคลีเป็นน้องสาวทั่วไป
เช่นเดียวกับ Sucrose อัลเบโด้มักใช้เวลาส่วนใหญ่อย่างสันโดษ และไม่ได้ชอบการพูดคุยกับคนอื่นมากนักเนื่องจากมีปัญหาในด้านการรักษาความสัมพันธ์ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นพูดจาติดอ่างเหมือนกับผู้ช่วยของตน

อัลเบโด้นั้นยังเป็นศิลปินผู้มีพรสวรรค์ โดยเริ่มจากการวาดภาพประกอบเพื่อช่วยในการวิจัย แต่ตอนนี้ทำมันเพื่อผ่อนคลาย ยังทำหน้าที่เป็นนักวาดภาพประกอบของ Xingqiu ซึ่งเขามองว่าเป็นนักเขียนที่ใช้ได้ทีเดียว อัลเบโด้ยังมีนิสัยค้นคว้าและศึกษาสิ่งใดก็ตามที่สนใจ โดยระบุว่าเขาสนุกกับการเปลี่ยนสิ่งที่ไม่รู้เป็นสิ่งที่รู้ เมื่อความรู้สึกนี้หมดไป ก็จะละทิ้งสิ่งที่ทำไปอย่างรวดเร็วเพราะมันสร้างความรู้สึกขมขื่นตามมา เขายังชอบทานอาหารเบาๆ และขนมหวานอีกด้วย

แม้จะถูกมองในแง่ดีจากผู้คนใน Mondstadt แต่แทบไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนที่ท้จริงของเขาเลย เรื่องราวในอดีตของอัลเบโด้ต่างล้วนเป็นความลับทั้งสิ้น แม้กระทั่งเจ้าตัวก็ยังไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเอง จนทำให้บางทียังคิดว่าอาจารย์นั้นอาจเป็นผู้สร้างตนขึ้นมา และยังคิดว่าตนเองมี “โครงสร้าง” ที่แตกต่างไปจากผู้คนใน Teyvat และเนื่องด้วยอัลเบโด้ได้รับรู้ความรู้โบราณที่ถูกหลงลืมไป ทำให้เขาถึงกับคิดว่าตัวเองนั้นเป็นภัยคุกคาม ทั้ง Venti และ Dainsleif ยังถือว่าอัลเบโด้เป็นอันตรายด้วยเหตุผลนั้นเช่นกัน

ลักษณะภายนอก

อัลเบโด้เป็นชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีฟ้าอมเขียวสดใส มีจุดสามจุดในม่านตา (คล้ายกับสัญลักษณ์เล่นแร่แปรธาตุ) และมีผิวสีซีด และไว้ผมสีบลอนด์อ่อนคล้ายสีขี้เถ้าถึงใต้ไหล่ รวบผมหางม้าครึ่งหัว และถักเปียบางส่วน และมีเครื่องหมายเพชรสีทองอยู่ตรงกลางคอของเขา
อัลเบโด้สวมเสื้อคลุมยาวสีขาวแขนสั้น ซึ่งมีฮู้ดสีดำ ด้านหลังมีสายโซ่สีทอง และเสื้อคลุมประดับลายสีดำกับสีทอง ปลดกระดุมแต่มีสายคาดสีดำ ซึ่งทับเสื้อเชิ้ตสีครามที่สวมไว้ เขาสวมกางเกงขาสั้นสีดำ คู่กับถุงน่องสีดำล้วน สวมเข้ากับรองเท้าบูทหุ้มข้อสีดำซึ่งมีส้นสูงเป็นสีดำและประดับด้วยลายสีเงิน และใส่ถุงมือยาวสีดำตรงด้านฝ่ามือเป็นสีส้มและมีลายสีทอง ติดวิชั่นไว้ที่ใต้คอเสื้อ

แนะนำจากออฟฟิเชียล

ดินที่ไร้ซึ่งการปนเปื้อน ให้กำเนิดมนุษย์ในช่วงแรกเริ่ม
พี่ Albedo ทั้งฉลาดทั้งใจดี เขาดีกับ Klee มากๆ เลยล่ะ! ขอแค่ได้ออกไปนู่นไปนี่กับพี่ Albedo… เท่านี้ Klee ก็จะได้เห็นของแปลก ๆ ตั้งเยอะแยะเลย มันสนุกมากกกกก เลยล่ะ~!
KLEE

เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะพูดถึงแก่นแท้ของสรรพสิ่งออกมาโดยง่ายแต่อย่างใด

เดินท่ามกลาง “ปุถุชน” ที่ไร้เดียงสา แสดงความจริงใจและความกรุณาของเขาออกมาอย่างเหมาะสม

สุภาพและสง่างาม แม้ภายนอกจะดูเพิกเฉยต่อการเข้าสังคม แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่เคยลังเลเลยที่จะให้ความช่วยเหลือ

หากยอมรับคุณเป็นเพื่อน แม้จะไม่ได้รู้จักกันมานาน แต่เขาก็ยังเจียดเวลาจากตารางงานอันแสนยุ่งเหยิงของเขา เพื่อวาดภาพที่สวยงามให้กับคุณ

Albedo หัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุแห่งกองอัศวิน Favonius ก็เป็นเด็กหนุ่มที่แสนวิเศษเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาว Mondstadt หรือเหล่าสมาชิกในสังกัดกองอัศวิน ต่างก็ประทับใจในความรอบรู้ของเขาทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะ “อัจฉริยะ”, “องค์ชายชอล์กขาว” หรือ “หัวหน้าฝ่ายสืบสวน”… เขาไม่สนใจในเรื่องของลาภยศและชื่อเสียงเท่าไหร่ แต่มุ่งเน้นไปที่หัวข้อการวิจัยเท่านั้น

ความมั่งคั่งและเส้นสายไม่ใช่เป้าหมายของเขา สิ่งที่เขาปรารถนาที่จะควบคุมนั้น ก็คือความรู้อันไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

เนื้อเรื่องตัวละคร
ข้อมูลตัวละคร
ศาสตร์แห่งการแปรธาตุที่มีประวัติอันยาวนาน แต่กลับถูกลืมเลื่อนไร้การสืบทอด ในทุกวันนี้ ศาสตร์การแปรธาตุนี้กลับถูกใช้เพียงแค่ซ่อมแซมชื้นส่วนหรือวัสดุที่แตกหัก เพื่อประหยัดเงินค่ากาวเพียงเท่านั้น

หากได้ยินคนพูดแบบนี้ เหล่านักเล่นแร่แปรธาตุจะต้องพูดเสียงดังขึ้นมาอย่างแน่นอนว่า “ศาสตร์นี้มันไม่ได้ห่วยขนาดนั้น!”

น่าเสียดายที่ในสายตาของชาว Mondstadt แล้ว สิ่งนี้แทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่การแปรธาตุพอจะทำได้แล้ว

จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่อยู่ ๆ Albedo ก็มาและตัดสินใจที่จะอยู่ที่ Mondstadt นี้อย่างถาวร

ชายหนุ่มผู้นี้ได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของการเล่นแร่แปรธาตุให้ผู้คนได้เห็นด้วยทักษะอันน่าทึ่งของเขา

ศาสตร์ความรู้อันกว้างใหญ่ไพศาลที่แพ้แต่สถาบัน Sumeru ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ถูกพูดออกมาโดยชายหนุ่มคนนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“จักรวาล… คือด้านตรงข้ามของสวรรศ์ ส่วนโลก… นั้นคือความฝันที่แพ้แต่กาลเวลาก็ยังลืมเลื่อน สิ่งนี้คือผงธุลี คือรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดของโครงสร้างที่ซับซ้อนของชีวิตนี้”

ราวกับจะเป็นการยืนยันคำพูดที่แสนจะมีมนต์ขลังนี้ Albedo หยิบขี้เถ้าที่กิดจากการเผาดอกไม้เหนือหัวของ Dendro Slime ขึ้นมา

ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ขี้เถ้าในมือของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นดอก Cecilia ดอกหนึ่ง

“นี่คือการกำเนิดใหม่””

เรื่องราวของตัวละคร 1

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2)

ตำแหน่งของ Albedo นั้นค่อนข้างที่จะมีความสำคัญในกองอัศวินเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเขาไม่ค่อยที่จะโผล่หน้าออกมามากนัก

ไม่ใช่เพราะเขามีสภาวะทางอารมณ์ที่แปลก ๆ อย่างที่ผู้คนมักจะจินตนาการถึงเหล่านักวิชาการ แต่ในทางตรงกันข้าม เขาปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความจริงใจเป็นอย่างมาก

เพียงแต่ว่าความใกล้ชิดที่สร้างขึ้นด้วยความกระตือรือร้นที่มากเกินไปนั้น มันเชื่อถืออะไรไม่ได้ และเพื่อที่จะรักษามันไว้ ก็ต้องจ่ายด้วยพลังงานที่มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ Albedo จึงเลือกที่จะรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสมและเป็นมิตรกับผู้คน

ไม่ว่าจะเป็นการหมกตัวอยู่ในห้องทำงานหรือออกไปเดินทางท่องเที่ยวและเก็บวัตฤดิบ ไม่มีใครใน Mondstadt เลย ที่จะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

แต่ความแปลกแยกนั้นไม่ได้หมายความว่า Albedo เป็นคนที่เย็นชา

ในตอนที่ให้คำแนะนำต่อผู้ช่วยอย่าง Timaeus และ Sucrose เขาก็ทำอย่างเต็มใจและยินดี

ในตอนที่ส่งภาพร่างที่วาดให้ชาว Mondstadt ได้ดู เขาก็มีความสุขอย่างจริงใจเช่นกัน

และในตอนที่เห็นคนที่เปี่ยมไปด้วยพสวรรค์อย่างแท้จริงอย่าง Lisa แต่กลับเลือกที่จะรับหน้าที่เป็นบรรณารักษ์…เขาก็รู้สึกเสียดายอย่างจริงใจเช่นกัน

เรื่องราวของตัวละคร 2

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3)

“Albedo สามารถมาปักหลักอยู่ที่ Mondstadt ได้ด้วยจดหมายแนะนำของอาจารย์”

คำพูดนี้ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่เมือง Monstadt นั้นยินดีต้อนรับผู้คนอยู่เสมอ การจะมีใครแนะนำหรือไม่นั้น ไม่ได้สำคัญอะไร

หรือจะพูดก็ได้ว่า หากไม่มีจดหมายแนะนำฉบับนี้ ชีวิตใน Monstadt ของ Albedo อาจจะสะดวกสบายมากกว่านี้ก็เป็นได้

…เพราะว่า คนที่ได้รับจดหมายแนะนำก็คือ Alice นักผจญภัยผู้แสนโด่งดัง เพื่อนเก่าของ Rhinedottir ผู้เป็นอาจารย์ของ Albedo นั่นเอง

หลังจากอ่านจดหมายเสร็จ Alice ก็นิ่งคิดอยู่สักพัก

“Rhine บอกว่าให้ฉันจัดหาห้องทดลองให้เธอ… นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะทำได้หรอกนะ อืม… นึกออกแล้ว!”

จากนั้น Albedo ก็ถูก Alice จับยัดเข้าไปในกองอัศวินแห่ง Favonius ทั้งอย่างนั้น

สำหรับ Albedo แล้ว งานของกองอัศวินนั้นถือว่าค่อนข้างจะสบาย ซึ่งใช้พลังงานเพียงแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ของเขาเท่านั้น ก็สามารถจัดการเรื่องเหล่านั้นได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว

แต่เดิมตัวของเขาคิดว่า เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมดนั้น สามารถนำไปใช้กับการทดลองได้ ห้องทดลองของกองอัศวินรวมไปถึงอุปกรณ์การทดลองต่างๆ ก็สามารถหาได้ด้วยตนเอง

แต่…

Alice มีลูกสาวอยู่หนึ่งคน ชื่อ Klee

…ใช่แล้ว Klee “คนนั้น” นั่นแหละ

“จากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ เธอก็ถือซะว่า Klee เป็นน้องสาวก็แล้วกัน”

หลังจากนั้นเป็นต้นมา การรับมือกับปัญหาที่ Klee ก่อ ก็กินพลังงานที่เหลืออยู่ของเขาไปเกือบหมดซะแล้ว

เรื่องราวของตัวละคร 3

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4)

Albedo นั้นไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับครอบครัวทางสายเลือดของเขา ตั้งแต่จำความได้ เขาก็ออกผจญภัยอยู่ในส่วนลึกของดันเจี้ยนร่วมกันกับอาจารย์แล้ว

เหล่าผู้คนในกองอัศวิน, คุณป้า Alice รวมไปถึงนักเดินทางผู้มีกลิ่นอายของหมู่ดาว ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ต่างก็เป็นคนสำคัญสำหรับเขาทั้งสิ้น แต่ในชีวิตของ Albedo แล้ว อาจารย์ของเขานั้น อยู่ในจุดที่พิเศษกว่าใครอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับ Albedo แล้วเธอเป็นเหมือนดั่งครอบครัวทางสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่เขามี

อาจารย์เป็นผู้หญิงที่มีความเย็นชาและเข้มงวด เธอเลี้ยงดู Albedo และสอนความลับของการแปรธาตุให้แก่เขา

“จักรวาล… คือแก่นแท้สีดำอันลึกลับของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่แท้จริง และผืนแผ่นดิน… คือแหล่งรวบรวมความทรงจำของเวลาและชีวิต

ชอล์กสีขาว…ก็คือเธอ และดินสีดำ… คือที่มาของคำว่าการเล่นแร่แปรธาตุ อีกทั้งยังเป็นรากเหง้าของชีวิต และสิ่งนี้…”

เธอแสดงทักษะของเธอให้เขาได้ดู จากนั้นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาก็แตกตัวออกมา เศษของถังเพาะเลี้ยงกระจายไปทั่วทั้งพื้น

“…คือการกำเนิดใหม่”

เรื่องราวของตัวละคร 4

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5)

ครั้งหนึ่ง Albedo เคยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีความสุข

เขาไม่จำเป็นต้องคิดอะไร ชีวิตดูเหมือนจะซ้ำซากจำเจ ความหมายของมันมีเพียงเพื่อร่วมทางไปกับอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสั่งของอาจารย์ และบรรลุความคาดหวังของอาจารย์เท่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่ง อาจารย์และลูกศิษย์คู่นี้ได้ไปพบเข้ากับอาร์ติแฟกต์ชิ้นหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “Heart of Naberius” ที่ส่วนลึกของโลก

หลังจากนั้นเป็นต้นมาอาจารย์ของเขาก็หายตัวไป ทิ้งไว้เพียงกระดาษโน้ตที่เขียนข้อความเอาไว้, จดหมายแนะนำ และข้อความโบราณส่วนหนึ่งเท่านั้น

กระดาษโน้ตเขียนไว้ว่า: ให้ Albedo มุ่งหน้าไปยัง Mondstadt และตามหา Alice เพื่อนเก่าของอาจารย์ ส่งจดหมายฉบับนี้ให้แก่เธอ และทำบทเรียนบทสุดท้ายให้สำเร็จ

ส่วนข้อความโบราณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ “บันที่กลับแห่งพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่” ที่อาจารย์เก็บเอาไว้

นอกจากนี้ยังมีของขวัญที่ค่อนข้างจะพิเศษอีกหนึ่งขึ้น: อาจารย์ของเขาให้การอนุมัติอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่า Albedo นั้นได้สำเร็จการเรียนรู้วิชาจากเธอแล้ว และมอบสมญา “Kreideprinz (องค์ชายชอล์กขาว)” ให้แก่เขาเป็นรางวัล

บทเรียนที่ผ่านมาของ Albedo นั้นล้วนมีแต่ความยากลำบาก

ซึ่งเขาเองก็เชื่อคำขู่ที่อาจารย์พูดออกมาในแต่ละครั้งว่า “ทำไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ” นั้น เป็นคำพูดที่มีน้ำหนักและจริงจัง

แต่ตอนนี้ บทเรียนที่ Albedo ได้รับนั้นยากจนเกินไป และมันก็เกินขีดจำกัดที่เขาจะสามารถรับได้…

หรือนี่หมายถึงโชคชะตา ที่ขีดไว้ให้เขาไม่สามารถทำบทเรียนให้สำเร็จ และไม่มีวันพบกับอาจารย์อีกต่อไปกันนะ?

“บทเรียนสุดท้าย: จงแสดงความจริงและความหมายของโลกนี้ให้ฉันดูซะ”

เรื่องราวของตัวละคร 5

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6)

การเล่นแร่แปรธาตุที่ Albedo เชี่ยวชาญนั้นแตกต่างจากศาสตร์อื่น ๆ ของทั้ง 7 ประเทศใน Teyvat อย่างสิ้นเชิง

ความรู้ของเขานั้นเรียนรู้มาจากประเทศอื่น ที่อยู่นอกเหนือประเทศทั้งเจ็ด ซึ่งมีชื่อว่า Khaenri’ah

Khaenri’ah เป็นดินแดนใต้ดิน สัตว์ตามธรรมชาติเลยค่อนข้างน้อย ดังนั้น “การเล่นแร่แปรธาตุ” จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อ “สร้างสิ่งมีชีวิต”

โดยศาสตร์แห่งการก่อกำเนิดชีวิตนี้ รู้จักกันในชื่อว่า “ศิลปะแห่งดินดำ”

Albedo ได้เรียนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่วัยเด็ก จากการอ่านบันทึกของอาจารย์

ขั้นต่อไปของ “ดินดำ” คือ “ชอล์กขาว” อาจารย์ของเขาก็เคย พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน

“ชอล์กขาวคือวัตถุดิบของ มนุษย์ในยุคดึกดำบรรพ์”

ทุกวันนี้ Albedo เข้าใจการเล่นแร่แปรธาตุอย่างลึกซึ้ง และมีความรู้ครบถ้วนมากกว่าแต่ก่อน

“ดินดำก่อให้เกิดชอล์กขาว”

เขาเข้าใจความหมายอันสึกซึ้ง ของประโยคนี้อย่างแท้จริงแล้ว

คำพูดลึกลับที่เข้าใจได้ยากนี้ ทำให้เขาหวนคิดถึงอาจารย์ของเขาอยู่เสมอ

ถึงแม้อาจารย์จะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา แต่ชีวิตของ Albedo นั้นมาจากท่านอาจารย์อย่างไม่ต้องสงสัย

“เฮ้อ หวังว่าฉันจะไม่คิดไปเองนะ “ความหมายของโลก” ที่พ่อแม่พร่ำบอกกับลูก… คงจะหมายถึงแค่ชีวิตที่มีความสุขล่ะมั้ง”

บางครั้ง Albedo ก็คิดเช่นนี้

ภาพวาดของ Albedo

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4)

นิสัยชอบวาดภาพของ Albedo เกิดขึ้นในสมัยที่ต้องติดตามอาจารย์ของเขาไปตามที่ต่าง ๆ

ตอนแรกก็เป็นแค่การวาดภาพประกอบในบันทึกเท่านั้น แต่ต่อมาเขาก็พบว่าการวาดรายละเยดต่าง ๆ ออกมา ช่วยให้เขาเข้าใจโครงสร้างทางกายภาพ ของสิ่งที่ตรวจสอบได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อการศึกษา การเล่นแร่แปรธาตุของเขาเป็นอย่างมาก

อีกทั้งการวาดภาพยังช่วยให้เขาสงบและมีสมาธิ นอกจากการสังเกตสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและจดบันทึกแล้ว ก็ไม่คิดเรื่องอื่นอีก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สบายใจเป็นที่สุด
ด้วยเหตุนี้ Albedo จึงกลายเป็นศิลปินระดับปรมาจารย์ โดยไม่ต้องมีใครสอนเลย

Albedo มักจะสเก็ตช์ภาพเวลาที่เขามาเดินเล่นในเมือง Mondstadt เพราะเขาชอบบันทึกช่วงเวลา แห่งความสุขของทุกคน

บางครั้งเขายังให้ภาพวาดนั้น กับคนที่กลายเป็น “นางแบบ” ในภาพวาดโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาคิดเสมอว่าการบันทึก ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นมีค่ามาก

เมื่อเวลาผ่านไป ฝืมือการวาดภาพของ AIbedo ก็ยิ่งพัฒนาขึ้น แต่เมื่อเขาได้เห็น “ภาพของ Inazuma” เป็นครั้งแรกแล้ว เขาก็รู้สึกจับใจเป็นอย่างมาก

ทำไมในโลกนี้ถึงมีภาพที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ผ่านภาพได้อย่างลึกซึ้งแบบนี้?

ช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง ๆ Albedo อยากจะลองวาดดูมาก

…ต่อมาเขาได้ร่วมมือกับนักเขียนนิยายที่ชื่อว่า Xingqiu และได้ถือกำเนิด “ตำนานของดาบ” ขึ้น

แต่น่าเสียดายที่เนื้อหาของนิยายเล่มนี้ธรรมดาเกินไป และได้ถูกขนานนามว่าเป็น “พจนานุกรมพร้อมภาพประกอบอันศักดิ์สิทธิ์”

วิชั่น

(ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6)

การได้รับ “วิชั่น” นั้นไม่ได้ทำให้ Albedo ประหลาดใจเลย

ในขณะที่ Albedo ได้รับวิชั่น เขาแค่เหลือบมองเพียงแวบเดียวแล้วก็กลับมาทำงานต่อ

เขาไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่เขารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น

สำหรับ Albedo แล้ว สิ่งนี้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยในการทำวิจัยก็เท่านั้น

แต่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขได้ก็คือการเปลี่ยน “สิ่งที่ไม่รู้” ให้เป็นความรู้ได้นั่นเอง

ต้องมีสักวัน ที่เขาจะเข้าใจความลับและภูมิปัญญาทุกอย่างบนโลกใบนี้ – ซึ่งรวมไปถึง “วิชั่น” ด้วยเช่นกัน

นามบัตร

Albedo – ดอกไม้แห่งตะวัน
วิธีการได้รับ:
ได้รับเมื่อระดับความประทับใจของ Albedo ถึง Lv.10
คำอธิบาย:
ขอให้ฉันเป็นประจักษ์พยานในปฏิหาริย์นี้ด้วยเถอะ

กลุ่มดาว

Princeps Cretaceus
Albedo
ความหมาย:
องค์ชายชอล์กขาว

เควสต์และกิจกรรมที่ปรากฏ

เควสต์ระดับตำนาน
  • บทแห่งองค์ชายชอล์กขาว (เควสต์ระดับตำนานของ Albedo)
    • ฉากที่ 1: รายงานการสังเกตนักเดินทาง
      • นักวิชาการอัจฉริยะและเมล็ดพันธุ์จากต่างโลก
      • การทดลองครั้งที่ 1: ธาตุ
      • การทดลองครั้งที่ 2: โลก
      • การทดลองครั้งที่ 3: ชีวิต
      • การทดลองครั้งสุดท้าย: การเหี่ยวเฉา

กิจกรรม

  • ชอล์กขาวและมังกรดำ
    • ปรากฏทุกตอน
  • เทศกาล Windblume
    • ตอนที่ 3: เขตแดนแห่งหมอกขาว และสายลม
  • ซัมเมอร์หรรษากับเกาะมหัศจรรย์
    • ฉากที่ 3: ปีศาจแห่งท้องทะเล! บุคคลที่รอคอยมาแสนนาน
    • ฉากที่ 4: ปริศนาสุดท้าย! คำตอบที่ถูกเก็บซ่อนอยู่จนถึงทุกวันนี้

กิจกรรมในเว็บ

  • ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
  • การเดินทางแห่งความทรงจำ

การโต้ตอบของตัวละคร

ตัวละครต่อไปนี้กล่าวถึง Albedo ในเรื่องราวของตัวละครหรือเสียงพากย์
ตัวละคร เรื่องราว เสียงพากย์
Amber
Diona
Jean
Kaeya
Klee
Lisa
Mona
Rosaria
Sucrose
Venti
Xingqiu
0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *