[Genshin Impact] แนะนำอาวุธ 3 ดาวน่าใช้ แรงได้ไม่ง้อ 4 ดาว!

หมวด : มือใหม่


 แนะนำอาวุธ 3 ดาวน่าใช้

พูดถึงไอเทมแล้ว ของแรร์สูงๆ ก็มักจะมีพลังอำนาจที่เหนือล้นกว่าของแรร์ต่ำๆ ยิ่งเป็นกาชายิ่งไม่ต้องพูดถึงความทรงพลังของมันเลย วันนี้ก็จะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับอาวุธขั้นต่ำในการใช้งานอย่างอาวุธ 3 ดาวทั้งหลายใน Genshin Impact กันว่า มีอาวุธชิ้นไหนเหมาะน่าหยิบมาใช้กันบ้างแบบที่ไม่ต้องง้อเปิดได้อาวุธเทพๆ กับเขา แน่นอนว่าของดาวเยอะกว่ามันก็ย่อมดีกว่า แต่คราวนี้ล่ะหนา 3 ดาวก็แรงได้เหวย

ก่อนอื่นทำไมต้อง 3 ดาว?

สาเหตุหลักๆ นั้นก็มาจากการที่อาวุธ 3 ดาวนั้นเป็นอาวุธระดับต่ำสุดที่กาชาจะสุ่มออกมาได้ และเป็นขั้นต่ำสุดที่จะมีสกิล Passive ติดตัวอาวุธอยู่ ต่างจากอาวุธ 1-2 ดาวที่มีแต่ค่า Status ใช้อะไรพิเศษแทบไม่ได้เลย ค่า Status รองยังไม่มีเลยเถอะ!!! อันนี้ร้ายแรงกว่าไม่มีสกิลอีก

นอกจากนี้ต่อให้เพื่อนๆ ไม่กดกาชา อาวุธ 3 ดาวนั้นก็ยังพอมีโอกาสได้จากในเกมอยู่บ้าง (แม้จะมีโอกาสออกต่ำสุดๆ ก็ตาม) และหากเพื่อนๆ สะสมเพชรไปเรื่อยๆ เพื่อเปิดหาตัวละคร ยังไงซะอาวุธพวกนี้ก็จะมาหลอกหลอนกันอย่างแน่นอน แทนที่จะปล่อยมันเป็นอาหารหรือของรกตู้ ก็สู้หาทางเอามันมาใช้กันดีกว่า หลายอันนั้นก็เรียกว่ามีคุณสมบัติที่ดีไม่แพ้อาวุธระดับแรร์สูงกว่าเลยล่ะ

ซึ่งเกนชินเองสำหรับตัวอาวุธก็จะมีสิ่งที่เรียกว่า Refine หรือการอัพสกิลของอาวุธอยู่ด้วย ขั้นตอนนี้ทำได้ด้วยการใช้อาวุธชนิดเดียวกันเป๊ะๆ มาอัพเกรด โดยมากจะส่งผลให้สกิลนั้นดีขึ้น 20% จนไปตันสุดที่ 2 เท่าตัวจากเดิม ….. งานนี้เพื่อนๆ คงนึกออกแล้วว่าทำไมอาวุธ 3 ดาวถึงมีข้อดีของมันอยู่ เราจะหามันแบบซ้ำๆ ได้ค่อนข้างง่ายกว่าเยอะยังไงล่ะ เพราะงั้นแม้ Status มันจะเบากว่าพวก 4-5 ดาวอยู่หน่อย แต่ก็สามารถอัพสกิลให้หนากว่าได้ง่ายกว่าเป็นอย่างมาก ทำให้เมื่อเทียบกันแล้วกับอาวุธดาวสูงกว่าแต่สกิลต่ำกว่าเนี่ย มันก็ยังใช้สู้กันได้ไม่ได้น้อยหน้ากันมากนัก

ถึงกระนั้น! เพื่อนๆ ก็ต้องเข้าใจอีกอย่างหนึ่งด้วยว่าตัวอาวุธเราก็ไม่อาจจะดูจากสกิลของมันได้เพียงอย่างเดียว ค่าสเตตัสรองนั้นก็สำคัญมาก เพราะค่าสเตตัสรองนี้จะอัพขึ้นมาเรื่อยๆ ตามเลเวลของอาวุธโดยไม่ต้องมานั่งง้อการ Refine ทำให้บางครั้งถ้าไม่มีสกิลที่ตรงใจจริงๆ แต่ค่าสเตตัสรองมันได้ เราก็โอเคกับมันได้ อาจจะแรงกว่าด้วยเอ้อ

ผลของสกิลที่แรงต่างกันแม้พลังโจมตีจะต่ำกว่า (Debate Club สามารถติดได้ 4-5 ครั้งในระยะเวลาเท่ากัน = 1600~2000 ต่อ 1092)

ก่อนจะไปดูกันที่ list อาวุธนี้ ก็ขอย้ำกันก่อนว่า ตัวคูณสกิลอะไรทั้งหลาย หรือโบนัสที่เพิ่มเป็น % ทั้งหลายนั้น จะถูกนำไปคำนวนอีกครั้งหนึ่งจากค่าพลังพื้นฐานของตัวละครและอาวุธรวมกัน (Base ATK) ดังนั้น อาวุธที่มีค่าสเตตัสพื้นฐานของมันสูงกว่า จะส่งผลได้ชัดเจนมากกว่า ดังเช่นในรูปที่ขนาดตัว Prototype ยังไม่ได้ Ascend ดาวที่ 3 (ที่จะเพิ่ม Base ATK ขึ้นไปอีก) ค่าพลังโจมตีก็ต่างกันชัดเจนแล้ว แม้จะมีค่ารองน้อยกว่าก็ตาม (ลองถอด Artifact ออกทั้งตัวก็ยังคงแรงกว่า 1 dmg ที่ 237 vs 238) ซึ่งค่าพื้นฐานตอนเลเวล 1 ของอาวุธทั้งสองชิ้นนี้อยู่ที่ 39 และ 44 ตามลำดับ

ทำให้อาวุธ 3 ดาวในบทความนี้จะวัดความเก๋ากับอาวุธ 4 ดาวได้นั้น ต้องวัดกันที่จำนวนครั้งการ Refine กันเน้นๆ เอาเรื่องของสกิลมาชนกับความต่างของสเตตัสนั่นเอง

นั่นเป็นสาเหตุที่สุดท้ายแล้ว ของ 4-5 ดาวที่แรงกว่าก็ทำความเสียหายได้ดีกว่าแม้จะเจอ 3 ดาวที่ Refine สูงๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนๆ จะต้องเปย์จนกว่าจะได้อาวุธที่ต้องการหรือทนใช้ของเบาๆ ไปจนกว่าจะหาของ 4-5 ดาวได้ สู้หามาใช้ก่อน พอมีของดาวสูงค่อยสลับไปใช้ก็ไม่เสียหาย จะเอาของ 3 ดาวให้ตัวรองใช้ก็ยังได้ ถึงกระนั้นก็ไม่ต้องถึงขนาดทุ่มสุดตัว หยุดที่แถวๆเลเวล 40 หรือ 60 จะดีกว่า

TIP : การเอาของที่อัพเลเวลแล้วไปเป็นวัตถุดิบอัพ EXP อีกทีหนึ่งจะเสียค่า EXP ไปแค่ 15% เท่านั้น ไม่ได้ขาดทุนอะไรขนาดนั้น เช่นสมมุติว่าดาบ level 10 ใช้ EXP อัพมา 10,000 หน่วย ถ้าใช้เป็นวัตถุดิบอัพเลเวล จะได้ EXP 8,500 หน่วย

ว่าแล้วเราไปดูกันดีกว่ามีอาวุธไหนน่าสนใจกันดีกว่าในกลุ่ม 3 ดาวเหล่านี้ …. พร้อมโบนัสพิเศษ อาวุธ 4 ดาวแบบที่สร้างได้เปรียบเทียบกันไปด้วย (ก็ลุ้นหา phototype กันไปละกันจ้า…)

อาวุธสายดาบ

อาวุธยอดฮิต ตัวดาบนั้นส่วนมากสามารถนำ 3 ดาวมาใช้ได้เกือบหมดเลย แต่จะค่อนข้างที่จะต้อง Build ร่วมกับ Artifact ในบางอย่างบ้าง

Fillet Blade 39 ATK เมื่อโจมตีโดนเป้าหมาย จะมีโอกาส 50% ที่จะทำความเสียหาย 240/280/320/360/480% เพิ่มเติม (คูลดาวน์ 15/14/13/12/11 วินาที)
Harbinger of Dawn 39 CRIT DMG เมื่อพลังชีวิตมากกว่า 90% จะเพิ่ม CRIT Rate 14/18/22/24/28%
Cool Steel 39 ATK เพิ่มความเสียหาย 12/15/18/21/24% ต่อศัตรูที่ติดธาตุน้ำ, ธาตุน้ำแข็ง

Fillet Blade : เป็นดาบสำหรับตัวละครที่มีการสลับไปมา ด้วยคูลดาวน์ที่นาน 15 > 11 วินาที ทำให้เมื่อสลับตัวมาก็ทิ่มฟาดซักชุดให้สกิลติดซักทีแล้วก็เผ่นผลุงกลับไป เห็นผลชัดเจนกว่าดาบเล่มอื่นๆ ที่ต้องฟาดต่อเนื่องเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ ตัวค่ารองก็ยังเน้นพลังโจมตีเข้าไปอีก อื้อหือ โดนทีมีสะดุ้ง

Harbinger of Dawn : ดาบสำหรับสายคริ เป็นดาบที่ควรจะต้อง Build Cri โดยแท้ทรูและพยายามรักษาเลือดให้สวยๆ ตลอดเวลา (จะด้วยการฮีลหรือหลบเนียนก็ตาม) หากจะใช้ชุดนี้ควรใช้ Artifact Berserker แค่ 2 ชิ้นเท่านั้น และที่ส่วนที่เหลือใส่ของเพิ่มความเสียหายตามปกติ

Cool Steel : เป็นดาบที่แรงมากสำหรับตัวละครธาตุน้ำและน้ำแข็ง ค่ารองที่เน้นพลังโจมตีขึ้นไปอีกก็ทำให้มันเป็นดาบที่แรงเป็นทุน แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของการทำปฎิกิริยาธาตุที่จะทำให้ธาตุของศัตรูหายไปด้วย (ผลของสกิลหายทันที) เลยแอบยุ่งๆ นิดหน่อย หากจะใช้ดาบเล่มนี้ ตัวละครควรมีสกิลที่คูลดาวน์ไว หรือมีวิธีทำให้เป้าหมายติดสถานะต่อเนื่องได้

► 4 ดาวแบบสร้างได้!

Prototype Rancour 44 Physical DMG Bonus เมื่อโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตีโดน จะเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันพื้นฐาน 4/4.5/5/5.5/6% เป็นเวลา 6 วินาที สะสมได้ 4 ครั้ง (คูลดาวน์ 0.3 วินาที)
Iron Sting 42 Elemental Mastery การทำความเสียหายธาตุจะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 6/?% เป็นเวลา 6 วินาที สะสมได้ 2 ครั้ง (คูลดาวน์ 1 วินาที)

Prototype Rancour : เป็นดาบที่ตรงไปตรงมามาก ตีไปเรื่อยๆ บัพความแรงขึ้นเรื่อยๆ ไปสุดที่ 16/24% ใช้เวลานิดหน่อย ได้ความเสียหายเพิ่มแบบคงเส้นคงวา ไม่มีเงื่อนไขอะไรมากมาย ใครก็ใช้ได้ กิ้วก้าวมากมาย

Iron Sting : เป็นดาบสำหรับตัวละครที่ต้องการเน้นด้านการผสมธาตุล้วนๆ ถ้าอยากจะใช้อาจจะต้องดูถึงตัวคูลดาวน์ของสกิลให้สามารถวนบัพได้ทันด้วย เพราะบัพของพี่แกสั้นมากแค่ 6 วินาทีเท่านั้น (แต่อย่าลืมว่าขอแค่เป็นความเสียหายธาตุ เพราะงั้นถ้าสกิลเป็นชนิดบัพให้เกิดธาตุได้ในช่วงเวลานั้นก็หมดปัญหา)

อาวุธสายดาบใหญ่

อาวุธสายตีช้าแต่ทรงพลัง มีตัวละครสายนี้การขุดแร่หรือทุบโล่ เสาจะเป็นเรื่องสนุกไปในทันที

Skyrider Greatsword 39 Physical DMG Bonus เมื่อโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี โดนเป้าหมาย จะเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันพื้นฐาน 6/7/8/9/10% เป็นเวลา 6 วินาที ซ้อนทับได้ 4 ครั้ง (คูลดาวน์ 0.5 วินาที)
Bloodtainted Greatsword 38 Elemental Mastery เพิ่มความเสียหาย 12/15/18/21/24% ต่อศัตรูที่ติดผลของธาตุไฟและธาตุไฟฟ้า
Debate Club 39 ATK หลังจากใช้ Elemental Skill แล้ว จะได้บัพ 15 วินาทีที่จะทำให้การโจมตีปกติ, ท่าชาร์จโจมตี ที่โดนเป้าหมายจะทำโบนัสความเสียหายเป็นกลุ่มด้วยความเสียหาย 60/75/90/105/120% (คูลดาวน์ความเสียหาย 3 วินาที)

Skyrider Greatsword : น่าจะเป็นดาบที่เกิดมาเพื่อ Noelle โดยเฉพาะ ด้วยการทุบแต่ละครั้งที่เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกัน ส่งผลให้เกราะของน้องหนาขึ้นและฮีลได้มากขึ้นไปในตัวโดยไม่ต้องสนใจเรื่องของธาตุอะไรมากมาย อาจจะต้องใช้เวลาในการบัพซักนิดแต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหามากนัก เรียกว่าถ้าใครอยากได้พลังกายภาพ กล้ามดิบๆ ไม่ต้องพึ่งเงื่อนไขธาตุ เล่มนี้ล่ะตอบโจทย์สุด ฟาดกันดั่งอั่กๆ

Bloodtainted Greatsword : เสียดายเล็กน้อยที่ค่ารองของดาบเล่มนี้ไม่ใช่ Base ATK แต่ก็ตรงไปตรงมาสำหรับตัวละครธาตุไฟหรือสายฟ้าดี ขอแค่สกิลคูลดาวน์ไวหน่อยจะได้ทำให้ผลของธาตุติดได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากต้องการผลการผสมธาตุด้วยก็ยิ่งต้องจัดคูลดาวน์กันดีๆ เลย

Debate Club : มันอาจจะดูงั้นๆ ในแง่ของตัวเลขที่มีคูลดาวน์ 3 วินาที แต่เมื่อหารระยะเวลาแล้วแค่ 0 ดาวยังเหมือนได้โบนัส 20% ตลอดเวลา และมาพร้อม ATK เป็นค่ารอง มันคือกระบองบ้าพลังดีๆ นี่เอง ขอแค่ตัวละครที่ใช้กระบองอันนี้มีสกิลคูลดาวน์ภายใน 15 วินาที มันก็พร้อมจะฟาดศัตรูให้ลอยโฮมรันไปได้สบายๆ แล้ว

► 4 ดาวแบบสร้างได้!

Prototype Aminus 44 ATK การโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี โดนเป้าหมาย จะมีโอกาส 50% ที่จะสร้างโบนัสความเสียหายเป็นกลุ่มด้วยความเสียหาย 240/300/360/420/480% (คูลดาวน์ 15 วินาที)
Whiteblind 42 Base DEF เมื่อโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี โดนเป้าหมาย จะเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันพื้นฐาน 6/7.5/9/10.5/12% เป็นเวลา 6 วินาที สะสมได้ 4 ครั้ง (คูลดาวน์ 0.5 วินาที)

Prototype Aminus : ความที่ดาวสูงกว่า ค่าสเตตัสก็จะสูงกว่า สกิลมีความแกว่งของช่วงเวลามากกว่าเพราะมาปั้งเดียวแรงๆ ไปเลย ส่วน Debate Club จะแรงเฉลี่ยตลอดช่วงเวลา อ้อ เนื่องจากไม่ต้องยุ่งกับสกิลแล้ว น้อง Noelle ถือเล่มนี้ได้ไม่ต้องกลัวรอคูลดาวน์สกิลเลย เป็นดาบบ้าพลังที่บ้าพลังแล้วบ้าพลังอีก… เสียดายแค่ลดคูลดาวน์ไม่ได้เหมือน Fillet Blade

Whiteblind : ดูเหมือนจะอัพเกรดจาก Skyrider Greatsword แต่ค่าสเตตัสรองเพิ่มพลังป้องกัน สอบตก!!! (อาจจะฟังดูดีสำหรับ Noelle ….. แต่เอาความแรงไปตีมอนให้ตายไวขึ้นน่าจะดีกว่า ยกเว้นเพื่อนๆ จะใช้ Noelle เป็นแค่ตัวเสริมเอาโล่จริงๆ ก็ยัดเยียดดาบเล่มนี้ให้เธอซะ …. ก็มี White Iron Greatsword ที่เป็น 3 ดาวให้ใช้นะเอ้อ)

อาวุธสายธนู

ธนูระดับ 3 ดาวจะแอบน่าเสียดายที่ไม่มีส่วนของการเพิ่ม Base DMG เลย ถึงกระนั้นก็ยังมีที่น่าจับตาอยู่

Raven Bow 40 Elemental Mastery เพิ่มความเสียหาย 12/15/18/21/24% ต่อศัตรูที่ติดธาตุ น้ำ, ธาตุไฟ
Slingshot 38 CRIT Rate เมื่อ Normal Attack, Aimed Shot โจมตีโดนเป้าหมายภายใน 0.3 วินาทีหลังยิง จะเพิ่มความเสียหาย 36/42/48/54/60% แต่ถ้าไม่ทันจะลดความเสียหาย 10% แทน

Raven Bow : คล้ายกับทางส่วนของ Cold Steel แต่ไม่มี Base ATK เพิ่ม ทำให้ธนูคันนี้หลักๆ แล้วแอบขัดกันเองหน่อยๆ เนื่องจาก Elemental Mastery จะเพิ่มผลจากการผสมธาตุ แต่ว่าสกิลจะแรงก็มาจากศัตรูที่มีธาตุ โดยรวม Amber น่าจะชอบธนูคันนี้มากที่สุด เนื่องจากน้องไม่เด่นด้านการโจมติปกติเท่าไหร่นัก (ตัวคูณน้อยกว่า สกิลและหมู่ดาวสนับสนุนการชาร์จมากกว่า)

Slingshot : ธนูคันนี้จะเหมาะกับ Venti, Fiscal มากกว่า เนื่องจากโดยรวมสามารถโจมตีปกติได้ดีกว่า หรือ Amber จะใช้ก็ต้องเข้าใกล้ศัตรูสักหน่อย เนื่องจากผลของสกิลที่ต้องให้ลูกธนูที่ยิงออกไปโดนเป้าหมายภายใน 0.3 วินาที ก็เรียกว่าแทบต้องเอาหน้าแนบพุงศัตรูกันแล้ว (ตีระยะห่างประมาณ 1 ช่วงลำตัวของ Ruin Guard พอดี) แต่ก็แลกมากับการที่ดึงความเสียหายออกมาได้สูงมากๆ แม้จะไม่มี Base ATK เป็นค่ารองก็ตาม

ของแถม > Ebony Bow : ค่ารองเป็น Base ATK เพียงคันเดียว พร้อมกับการยิงศัตรูอย่าง Ruin Guard, Ruin Hunter แรงขึ้น ถ้าเพื่อนๆ ไม่คิดมากเรื่องสกิลและสนกล้ามล้วนๆ ก็สามารถหยิบมาได้ถ้ายังไม่ได้ธนู 4-5 ดาวที่น่าสนใจพอ โบนัสสำหรับการยิงจุดอ่อนไอ้เจ้าพวกนี้โดยเฉพาะด้วย อุฮิ

► 4 ดาวแบบสร้างได้!

Prototype Crescent 42 ATK เมื่อใช้ Aimed Shot โจมตีโดนจุดอ่อน จะเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 10% และพลังโจมตี 36/?% เป็นเวลา 10 วินาที
Compound Bow 41 Physical DMG Bonus เมื่อโจมตีด้วย Normal Attack, Aimed Shot โดนเป้าหมาย จะเพิ่มพลังโจมตี 4/5/6/7/8% และเพิ่มความเร็วการโจมตีของ Normal Attack 1.2/1.5/1.8/2.1/2.4% เป็นเวลา 6 วินาที สามารถสะสมได้ 4 ครั้ง (คูลดาวน์ 0.3 วินาที)

Prototype Crescent : เหมาะกับตัวที่ต้องยิงจุดอ่อน หรือมีจุดอ่อนให้ยิงสุด ในแง่ของค่าสเตตัสรองก็ทำให้เป็นธนูที่แรงเป็นอย่างมาก การเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ก็ทำให้สามารถขยับตัวได้สะดวกขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าไม่มีจุดอ่อนก็จะกร่อยนิดหน่อย (เช่นพวกสไลม์หรือบอสส่วนหนึ่ง) อนึ่งจุดอ่อนส่วนมากก็ที่หัวหรือแกนต่างๆ นั่นแหละ

Compound Bow : ธนูสำหรับสายยิงธรรมดา เนื่องจากผลของการเพิ่มความเร็วการโจมตีแบบปกติทำให้มันดูมีราศีขึ้นมานอกจากบัพความแรงธรรมดาๆ อยู่ไม่น้อย แต่อาจจะไม่ถึงขั้นรู้สึกหวืดหวายิงรัวซอยไวสองเท่าอะไรขนาดนั้น ค่ารองนั้นจะเพิ่มความแรงของตัวธนูเข้าไปได้อีก

อาวุธสายสื่อเวทย์

อาวุธกลุ่มนี้จะทำความเสียหายธาตุอย่างแน่นอน เหมาะแก่การแปะธาตุใส่ศัตรูมาก

Thrilling Tales of Dragon Slayers 38 Base HP เมื่อสลับตัวละคร ตัวละครที่สลับเข้ามาจะมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 24/30/36/42/48% เป็นเวลา 10 วินาที (คูลดาวน์ 20 วินาที)
Magic Guide 38 Elemental Mastery เพิ่มความเสียหาย 12/15/18/21/24% ต่อศัตรูที่ติดธาตุน้ำ, ธาตุไฟฟ้า

Thrilling Tales of Dragon Slayers : หรือที่เรียกว่า Thrilling Tales of Barbara หนังสือเล่มนี้มีไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ เนื่องจากสกิลของเธอที่ฮีลแรงขึ้นตามค่า HP และหน้าที่ของเธอมักจะใช้เป็นตัวฮีลมากกว่าตัวบู๊โดยตรง (แต่จะเอาไปเล่นกับสถานะระเหยก็ได้นะเอ้อ) การสลับมาฮีลและสลับกลับไปตัวหลัก DPS ก็จะบัพเพิ่มเข้าไปอีกแม้สกิลของเธอไม่ได้บัพให้ก็ตาม นี่มันบ้าบอที่สุดเลย แน่นอนจะเอาไปใช้กับตัวละครสื่อเวทย์ที่เน้นการสลับตัวคนอื่นก็ได้นะ แค่อย่าเผลอสลับตัวผิดก็พอ…

Magic Guide : ค่อนข้างตรงไปตรงมาและแม้จะไม่ได้มี Base ATK แต่ตัวละครสายสื่อเวทย์ก็สามารถแปะธาตุใส่ศัตรูได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะงั้นถ้าใช้กับตัวละครธาตุน้ำ, ไฟฟ้าก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่กับตัวละครธาตุอื่นล่ะไม่เหมาะแน่ๆ

► 4 ดาวแบบสร้างได้!

Prototype Malice 41 Base HP เมื่อใช้ Elemental Burst จะฟื้นฟู Energy 4/4.5/5/5.5/6 หน่วยทุกๆ 2 วินาที, พร้อมกับช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับทุกคนในปาร์ตี้ 4/4.5/5/5.5/6% ทุกๆ 2 วินาที เป็นเวลา 6 วินาที
Mappa Mare 44 Elemental Mastery เมื่อทำให้เกิด Elemental Reaction จะเพิ่มความเสียหายธาตุ 8/?% เป็นเวลา 10 วินาที ซ้อนทับได้ 2 ครั้ง

Prototype Malice : เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ฟังดูเหมาะกับ Barbara จากผลของการเพิ่มค่า HP แต่ตัวสกิลนะจะช่วยเพิ่ม Energy ให้กับตัวเองยามกดใช้ไม้ตาย และช่วยฮีลให้กับทุกคนในปาร์ตี้แทน กล่าวคือเป็นเหมือนกับ Thrilling Tales of Dragon Slayers ที่เน้นไปทางด้านฮีลแทน

Mappa Mare : เป็นหนังสือสำหรับสายเน้น Elemental Reaction แบบสุดตัวโดยที่ไม่สนว่าเป็นธาตุไหน จะดีสำหรับตัวละครทุกธาตุ และควรเน้นการเล่นกับการผสมธาตุให้มากๆ เพื่อดึงความสามารถของค่าสเตตัสรองออกมาให้สุดทาง (ธาตุดินก็ ….. จะกร่อยๆ นิดนึง)

อาวุธสายหอก

ตัวละครที่ใช้หอกได้มีน้อย อาวุธก็มีน้อยไม่ได้ต่างกัน 3 ดาว 3 ชิ้นก็ตัดทิ้งได้เลยชิ้นนึงล่ะนะ

White Tassel 39 CRIT Rate เพิ่มความเสียหายของการโจมตีปกติ 24/30/36/42/48%
Halberd 40 Base ATK การโจมตีปกติจะทำโบนัสความเสียหายเพิ่ม 160/200/240/280/320% (คูลดาวน์ 10 วินาที)

อันที่จริงทั้งสองอย่างนี้ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ดังนั้นเพื่อนๆ เลือกจากค่ารองว่าจะเอาเป็นอัตราคริ หรือพลังโจมตีดิบๆ ลุ่นๆ ไปเลยน่าจะตัดสินใจง่ายกว่าในการเลือกใช้งาน และเลือกใช้ Artifact ให้เข้ากัน เพราะในแง่ของสกิลนั้นก็คล้ายคลึงกัน White Tassel จะได้ความเสียหายที่คงที่กว่า และมีเด้งขึ้นลงบ้างจากคริ ส่วน Halberd นั้นก็มานิ่งๆ พอคูลดาวน์เสร็จก็เด้งปุ้งแรงๆ จุกๆ มาทีหนึ่ง เหมือนติดโคตรคริทำให้ไม่มีอะไรน้อยหน้ากว่ากันเลย

► 4 ดาวแบบสร้างได้!

Crescent Pike 44 Physical DMG Bonus หลังจากเก็บ Elemental Orb, Particle ได้ การโจมตีปกติ, ชาร์จโจมตี จะทำโบนัสความเสียหายเพิ่ม 20/?% เป็นเวลา 5 วินาที
Prototype Grudge 42 Energy Recharge หลังจากใช้ Elemental Skill จะเพิ่มความเสียหายของการโจมตี Normal, Charge Attack 8/?% เป็นเวลา 12 วินาที ซ้อนทับได้ 2 ครั้ง

Crescent Pike : มีเงื่อนไขการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของสกิล แต่เป็นลูกผสมระหว่าง White Tassel และ Halberd โดยได้ค่าสเตตัสรองของการโจมตีกับความคงที่ของสกิลมา และมีเงื่อนไขต้องเก็บผลึกธาตุจากการใช้ธาตุโจมตีเพิ่มขึ้นมา ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรนัก แต่ระยะเวลาที่สั้น 5 วินาทีอาจจะมีบางช่วงที่สกิลหลุดกันบ้างระหว่างรอคูลดาวน์

Prototype Grudge : อาจจะดีสำหรับการนำไปให้ Xiangling ใช้เพื่อแจกจ่ายไม้ตายให้กับตัวหลักในทีมก็เป็นได้ จากผลของ Energy Recharge

อาวุธสามดาวเหล่านี้ถ้าตัดสินใจเลือกใช้ให้เข้ามือแล้ว ก็สามารถอัพมาใช้ได้เลย นอกจากเพื่อนๆ จะมีอาวุธ 4-5 ดาวที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด (โดยเฉพาะพวก 5 ดาวมักไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว) ก็เปลี่ยนไปใช้ 4-5 ดาวแทนและเน้นอัพพวกนั้นไปแทนเลย

อย่างไรก็ต้องขอย้ำอีกทีหนึ่งว่า อาวุธ 3 ดาวเหล่านี้จะเปล่งประกายเป็นพิเศษมากกว่าอาวุธแรร์สูงๆ หากเพื่อนๆ สามารถ Refine หรืออัพเลเวลสกิลขึ้นได้ การพยายามเอาไปเปรียบเทียบสู้กับอาวุธ 4-5 ดาวด้วยแบบยังไม่ Refine นั้นอาจจะผิดประเด็นกันไปซักนิด และค่าพลังโจมตีพื้นฐานของอาวุธนั้นส่งผลอย่างมากต่อตัวคูณสกิลต่างๆ ด้วย (ไม่งั้นคนคงไม่ใช้ 4-5 ดาวกันเพราะ 3 ดาวสกิลปั้มซะง่ายกว่าเยอะ) ดังนั้นหากต้องการลงทุนในระยะยาวแล้ว การอัพอาวุธ 3 ดาวแค่ประมาณเลเวล 60 น่าจะกำลังดีที่สุด

ถึงกระนั้น อาวุธเหล่านี้ที่กล่าวถึงก็ค่อนข้างที่จะมีความลงตัวของค่าสเตตัสรองและสกิลที่เข้ากับตัวละครต่างๆ ได้ดีกว่า และเน้นไปที่การทำความเสียหายเป็นหลักมากกว่าการเอาตัวรอด เนื่องจากการกำจัดศัตรูได้เร็วกว่าก็ทำให้เรามีปัญหาน้อยลง เสียเลือดน้อยลงไปในตัว

ก็หวังว่าตัวบทความนี้จะพอเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้ลองปรับไปใช้กันดูเผื่อจะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นกันไปน้า บางครั้งเราก็ไม่ต้องรออะไรที่มันใช่ มัน perfect เป๊ะๆ แต่ใช้ของที่มีเพื่อให้พัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน


แหล่งที่มา:
https://playpost.gg/genshin-impact-3-star-weapon/

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *