Morax


เทพแห่งพันธสัญญา

เทพแห่งพันธสัญญา

Morax

ธาตุ

หิน

ภูมิภาค

Liyue

ฝ่าย

เทพทั้งเจ็ด
เทพเจ้า
Adepti

สมญานาม

เพทเจ้าแห่งการค้า
เจ้าศิลา/หินผา
ยอดเซียน
เทพแห่งประวัติศาสตร์, เตาถ่านและเงินทอง/
เทพเจ้าศิลาฤกษ์
เทพนักรบ

Morax (ภาษาไทยมอแร็กซ์) ผู้มีอีกนามว่า เทพแห่งพันธสัญญา และ ราชันย์ศิลา (ภาษาจีน岩王帝君 Yánwáng DìjūnภาษาอังกฤษRex Lapis) เป็นอดีตเทพเจ้าศิลาและเป็นหนึ่งในเทพเจ้าทั้งเจ็ด ผู้ปกครองเมืองLiyue และพระองค์ยังเป็นหนึ่งในสองของเทพเจ้าทั้งเจ็ดที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ในตอนเริ่มเกม

ในปัจจุบันพระองค์กำลังท่องไปทั่วโลกในฐานะ Zhongli ที่ปรึกษาของโถงแห่งการเกิดใหม่ Wangsheng

พระองค์มีชื่อเรียกและตำแหน่งมากมายมีทั้งยอดเซียน, เทพแห่งพันธสัญญา, เทพเจ้าแห่งการค้า, เทพนักรบ, และเทพเจ้าศิลาฤกษ์

ทุก ๆ หนึ่งปี องค์ราชันย์ศิลาจะทรงเสด็จมาโปรดเมืองในพิธีเชิญเซียน ให้คำทำนายและชี้แนะราษฎรเพื่อการค้าขายอันมั่งคั่งตามเป้าหมายหลักของภูมิภาค

โปรไฟล์

บทนำตัวละคร

องค์ราชันย์ศิลาทรงเป็นเทพเจ้าแห่งพันธสัญญา การค้า เทพเจ้านักรบและอีกหลายพระปรมาภิไธย พระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าศิลาผู้มีพระชนมพรรษามากที่สุดถึงหกพันพรรษา ทำให้พระองค์เป็นเทพเจ้าผู้เก่าแก่ที่สุดในเหล่าเจ็ดเทพและอาจจะมีพระชนมพรรษามากที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา

เทพเจ้ามอแร็กซ์ทรงเป็นผู้ปรับแต่งภูมิประเทศในภูมิภาคที่พระองค์ทรงปกครอง และทรงออกรบพุ่งปกปักษ์ Liyue ในการศึกยิ่งใหญ่มากมายในครั้งสงครามเทพอสูร ห้ำหั่นต้านทานเทพเจ้าองค์อื่น ๆ บนที่ราบกุยหลี ในสมรภูมิหนึ่งพระองค์ได้กำราบเทพเจ้าโบราณนามว่าโอไซอัลด้วยห่าฝนหลาวหินเล่มยักษ์และจองจำเทพเจ้าสมุทรจนสิ้นฤทธิ์ สร้างเป็นสถานที่เรียกว่าสวนหินกูอวิ๋นในปัจจุบัน พระองค์ยังได้ทำการผนึกมังกรภูเขา Azhdaha เอาไว้ใต้รุกขชาติยักษ์ในที่ลุ่มหนานเทียนเหมินเนื่องจากพญามังกรเกิดคลุ้มคลั่งเป็นกบฎต่อพระองค์ นอกจากนี้พระองค์ยังได้ปิดบัญชีเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ดังเช่นเทพชีแห่งกูอวิ๋น และเจ้าชีวิตเก่าของ Xiao นามว่าเทพเจ้าแห่งความฝัน

พระองค์ยังทรงเป็นผู้ให้กำเนิดและชื่อเรียกของค่าเงินโมราในทวีป Teyvat ถูกผลิตขึ้นในโรงกษาปน์ทองผ่านโนซีสขององค์มอแร็กซ์เอง

ในปัจจุบันองค์ราชันย์ศิลาทรงพำนักอยู่ในนคร Liyue ในคราบของนายจงหลี รับจ้างเป็นที่ปรึกษาให้กับโถงแห่งการเกิดใหม่หว่างเชิง

อุปนิสัย

ลักษณะนิสัยของราชันย์ศิลาก่อนจะมาเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพนั้นไม่มีบันทึกไว้มากนัก ทว่าตำนานเก่าแก่แต่ยุคก่อนได้กล่าวถึงองค์เทพที่แทบไม่มีอะไรเหมือนกับเทพเจ้าผู้เป็นที่เคารพในปัจจุบัน นักกวี Venti กายหยาบขององค์วายุ Barbatos ผู้เป็นพระสหายแต่ช้านานของราชันย์ศิลาและเจ็ดเทพชุดเก่าองค์เดียวที่เหลือรอดมากับพระองค์ ได้กล่าวถึงมอแร็กซ์ไว้ว่าเป็นอันธพาลเถื่อนเซ่อซ่า และ “คนแก่หัวดื้อ” ราชันย์ศิลาเองก็เห็นเวนติเป็นอ้ายขี้เมาที่ทำศาสตร์ขับร้องเพลงเสียหมด

ถึงแม้พระองค์จะทรงเป็นเทพเจ้าแห่งพันธสัญญา ราชันย์ศิลาทรงทราบดีว่ารูปการณ์ข้อตกลงอาจเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะฉะนั้นคำพิพากษาของพระองค์จะพลิกผันได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงไม่รังเกียจการเล่นเล่ห์เพทุบายหลังฉากเล็กน้อย และยังน่าแปลกใจนักที่พระองค์ไม่คิดกริ้วคำวิพากย์วิจารณ์ของอวี่เหิง Keqing ที่ว่า Liyue เอาแต่พึ่งพาพระองค์มากเกินไป โดยสุดท้ายแล้วปรากฎว่าทรงเห็นด้วยกับนางด้วยซ้ำ

เทพเจ้ามอแร็กซ์ทรงเป็นเทพที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาได้ช้ามาก แต่พระองค์ก็ทรงยอมรับว่ายังไงเสียความเปลี่ยนแปลงย่อมหนีไม่พ้น ซึ่งเป็นคติที่เหล่าเซียนมักจะปรับตัวตามไม่ค่อยเป็น พระองค์ทรงมีดำริว่าเมือง Liyue ยังขาดพระองค์ไปไม่ได้ แต่วันหนึ่งขณะพระองค์ทรงจำแลงกายเพื่อเยี่ยมชมเมืองทรงได้สดับคำพูดจากพ่อค้าคนหนึ่งที่พูดกับลูกจ้างว่างานเสร็จแล้วกลับบ้านนอนได้ ทำให้พระองค์เกิดเคลือบแคลงพระทัยและวางกลอุบายทดสอบว่าท่าเรือ Liyue จะเอาตัวรอดได้เองหรือไม่หากไม่มีพระองค์ ราชันย์ศิลายังทรงติดนิสัยชอบคิดในวิถีทางเก่าๆมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าพระองค์จะจำแลงกายเป็ยจงหลีแล้วก็ตาม แต่วันดีคืนดีก็ยังมีความคิดใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาบ้าง

รูปลักษณ์

องค์ราชันย์ศิลาทรงจำแลงกายหยาบเป็นสัตว์ครึ่งมังกรครึ่งกิเลนเพื่อใช้ในพิธีกรรมใหญ่โตดังเช่นพิธีอัญเชิญเซียน หากทว่าโดยส่วนมากแล้วพระองค์มักจะใช้กายหยาบเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะหญิงหรือชายเพื่อท่องเมือง Liyue

รูปปั้นเทพเจ้าทั้งเจ็ดในภูมิภาค Liyue ได้แสดงรูปลักษณ์ของพระองค์เป็นชายฉกรรจ์สวมผ้าคลุมพระเศียรและมีผ้าพันพระองค์พันอยู่ตามพระเพลาโดยพระหัตถ์ขวาทรงถือลูกบาศก์ก้อนหนึ่ง

เนื้อเรื่อง

พระประวัติ

ก่อนสงครามเทพอสูรจะปะทุขึ้น เทพเจ้ามอแร็กซ์เป็นที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าแห่งศิลาและมีความสนิทกันกับพระนาง Guizhong ผู้เป็นเทพีธุลี ช่วยกันสร้างถิ่นฐานที่อยู่อาศัยให้กับราษฎรของตนบนที่ราบกุยหลี อันตั้งชื่อตามพระนามของทั้งสอง หากทว่าเมื่อสงครามเทพอสูรบังเกิดขึ้นพระนางกุยจงได้สิ้นพระชนม์ลงในสมรภูมิมฤตยูอันทำลายที่ราบกุยหลีและบึงตื๋อฮัว หลังจากนั้นมาองค์มอแร็กซ์ได้ย้ายถิ่นฐานประชาชนของพระองค์ไปยังตอนใต้ของเขาเทียนเหิง ไปตั้งเมืองใหม่เป็นท่าเรือ Liyue ในปัจจุบัน

เทพเจ้ามอแร็กซ์ได้สร้างพันธสัญญากับเหล่าเซียนเพื่อเป็นกองกำลังปกปักษ์เมือง Liyue ในขณะที่พระองค์ทรงมุ่งมั่นห้ำหั่นปราบอริ ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าชี โอไซอัล และเจ้าชีวิตเก่าของเซียวต่างถูกกำราบสิ้นฤทธิ์ด้วยพลังของท่านทั้งสิ้น ในชณะที่องค์เทพีฮัฟเรียผู้ซึ่งมีจิตเมตตาเกินจะเอาตัวรอดในยามสงครามเช่นนี้ได้ถูกปลงพระชนม์โดยน้ำมือราษฎรของตัวเอง ผู้รอดชีวิตจากแดนซาล เทอร์ราย พากันระหกระเหินไปทั่วภูมิภาคและมีหลายคนมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในท่าเรือ Liyue ในกาลครั้งหนึ่งพระองค์ได้พระสหายเป็นพญามังกรดิน และประทานตามองเห็นให้ หากทว่าต่อมาพญามังกรได้เสียสติไปเนื่องจากการพังทลายและเทพเจ้ามอแร็กซ์ต้องมาจองจำสหายพระองค์เอาไว้ในที่ลุ่มหนานเทียนเหมิน

เมื่อองค์มอแร็กซ์กำจัดเทพเจ้าองค์อื่นเสร็จสิ้นพระองค์ได้จองจำซากศพเทพเอาไว้ใต้ธรณี ที่ที่กายหยาบของเทพเจ้าย่อยสลายและกลายมาเป็นหนึ่งกับผืนดิน หากทว่าดวงวิญญาณของเทพนั้นเป็นอมตะ ความอาฆาตและกระหายเลือดของอดีตเทพได้หลั่งไหลลงสู่แผ่นดิน ก่อให้เกิดเป็นกลิ่นเน่าเหม็น โรคภัยไข้เจ็บ สัตว์ประหลาดอาละวาดและภัยพิบัติต่าง ๆ นา ๆ เพื่อเป็นการบรรเทาพิษร้ายนี้ เทพเจ้ามอแร็กซ์ได้ทรงเรียกตัวยักษาผู้พิทักษ์ห้าตนมาช่วยเหลือพระองค์ในการกำราบเพลิงแค้นของอดีตเทพซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จบ

เมื่อสงครามเทพอสูรถึงคราวยุติลงเมื่อเวลา 2,000 ปีที่แล้ว องค์มอแร็กซ์ได้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพผู้กำชัย เทพเจ้าทั้งเจ็ดต่างพากันเสด็จมาเสวยพระกระยาหารกันที่ Liyue และอีกสองพันปีต่อมาจะมีเพียงองค์มอแร็กซ์และองค์บาร์บาทอสที่เหลือรอดมาจากกลุ่มผู้ชนะชุดเก่า ในขณะที่อีกห้าได้มีเทพองค์ใหม่มาสืบราชสมบัติกันจนสิ้น

ไม่เป็นที่ทราบกันว่าเทพเจ้ามอแร็กซ์ได้มีบทบาทในวันมหาหายนะเมื่อ 500 ปีก่อนมากน้อยเท่าใด แต่พระองค์ทรงทราบดีว่าวิกฤตการณ์ในเวลานั้นได้เปลี่ยนพระราชดำริของพระนางเจ้า Tsaritsa ไปมากเพียงใด

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *