Zhongli/เนื้อเรื่อง


Zhongli/เนื้อเรื่อง

ผู้ดูแลลึกลับที่ได้รับเชิญจากโถงแห่งการเกิดใหม่ Wangsheng เขามีหน้าตาหล่อเหลา ท่าทีสง่างาม และมีความรู้เหนือคนธรรมดาสามัญ ถึงแม้จะไม่มีใครทราบที่มาของเขา แต่เขารู้มารยาทและกฏเกณฑ์เป็นอย่างดี เพียงนั่งอยู่ที่โถงแห่งการเกิดใหม่ Wangsheng เขาก็สามารถจัดพิธีแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์ได้ข้อความจากเว็บไซต์ทางการ

ลักษณะนิสัย

Zhongli เป็นชายหนุ่มผู้สงบ สงวนตัว และสุภาพ และรอบรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ Liyue ส่วนหนึ่งเนื่องจากการเป็นเทพหินผู้มีชีวิตยืนยาว จึงได้ผ่านประสบการณ์และความทรงจำมามากมาย และยังเป็นเทพก่อนหน้าที่จะกำเนิดเจ็ดเทพ จนรอบรู้แม้กระทั่งข้อมูลที่ถูกลืมหรือบิดเบือนไปตามกาลเวลา จึงทำให้มักถูกสงสัยในเรื่องนี้ แต่แม้จะมีข้อมูลมากมาย จงหลีก็ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ เขามักจะหวนระลึกถึงความหลัง บางครั้งจึงนำพาบรรยากาศเศร้าโศกไว้รอบตัวได้

ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของจงหลีคือมักจะลืมเกี่ยวกับ Mora ในการทำธุรกรรม โดยการจ่ายเงินจำนวนมากแม้จะไม่มี Mora อยู่ในมือซักแดงเดียว และมักได้อาศัยโถงแห่งการเกิดใหม่ Wangsheng หรือ Childe ช่วยแก้ปัญหานี้เสมอ

ภายหลังเปิดเผยว่า “ความประมาท” นั้นเกิดจากการที่เดิมเป็นผู้สร้างโมราด้วยโนซิส ซึ่งสามารถสร้างโมราได้ไร้ขีดจำกัด ทำให้หมดกังวลว่าเงินส่วนตัวจะหมดลง ทำให้เมื่อเขาเลือกที่จะอยู่ท่ามกลางมนุษย์ จึงลืมเรื่องพกเงินไปซะสนิท และเป็นผลให้ได้ใช้โมราของผู้อื่นอย่างไร้ยางอายเพราะเป็นผู้สร้างโมราขึ้นมาคนแรก

ชุดอาร์ติแฟกต์ Archaic Petra ระบุว่า Rex Lapis ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเทพเจ้าผู้ไม่แสดงความอ่อนไหวที่จะสังหารเทพเจ้าอื่น ๆ นับไม่ถ้วนในช่วงสงครามเทพอสูรเนื่องจากความจำเป็นทางสัญญา ในฐานะเทพเจ้าแห่งพันธสัญญา จงหลีจะคิดเรื่องสัญญาอย่างจริงจัง แม้ว่าจะไม่สนใจในเบื้องหลังของสัญญา แต่ก็จะเคารพข้อตกลงของเนื้อหาเสมอ และรู้สึกงุนงงว่าบางคนไม่สามารถปฏิบัติตามแนวคิดง่ายๆ ดังกล่าวได้ ด้วยเหตุนั้น เขาจะไม่ยอมให้ใครก็ตามผิดสัญญาและผู้นั้นจะต้องพบกับ “หินลงทัณฑ์”

จงหลีนั้นยังห่วงใย Liyue เมืองที่เขาเคยปกครองอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าจะเสี่ยงก้าวลงจากตำแหน่งเทพแห่งหินเพื่อทดสอบ Liyue สู่ยุคใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาเทพอีก โดยการแกล้งตายในช่วงพิธีอัญเชิญเซียน และจงหลียังละเว้นการเปิดเผยตัวตนต่างจาก Venti โดยระบุว่าจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่อ Liyue ตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริงเท่านั้น เขายังเห็นด้วยกับความคิดเห็นของ Keqing ว่า Liyue พึ่งพาเทพมากเกินไปและเคารพเธอด้วยเหตุผลนั้น

จงหลียังสามารถคำนวณและคาดการณ์แผนการของ Childe และนำมันไปทดสอบ Liyue อย่างแยบยล และถึงแม้ว่า Liyue จะไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเทพแห่งหินผาที่บูชา แต่ก็นับว่าเคารพเขาอย่างสูงมาก ด้วยทั้งความรู้มากมายและความเอื้ออาทรอันยิ่งใหญ่ เพราะเนื่องจากจงหลีเห็นว่าอายุขัยของมนุษย์นั้นสั้นอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับเซียน จึงไม่รีรอที่จะช่วยในสิ่งที่คนของเขาต้องการ

ลักษณะภายนอก

แขกลึกลับผู้ถูกเชิญโดย “โถงแห่งการเกิดใหม่ Wangsheng” มีความรู้เป็นที่สุดในทุกๆ เรื่อง

ข้อความจากเว็บไซต์ทางการ

จงหลีเป็นชายหนุ่มร่างสูงเพรียวผิวขาวและท่าทางดุดัน ดวงตาเป็นสีเหลืองอำพันสุกใสและมีรูม่านตาสีเหลืองอร่ามเป็นรูปเพชร แต่งอายแชโดว์สีส้มที่ด้านข้างของดวงตา เมื่อใช้พลังธาตุหิน ดวงตาจะเปล่งประกาย และยังมีผมสีน้ำตาลเข้มมีลักษณะยุ่งเหยิง และหน้าม้าซึ่งห้อยลงมาตรงด้านขวาของใบหน้า ผมจางเป็นสีน้ำตาลอำพันที่ส่วนปลายและมีการรวบผมเป็นหางม้าที่ยาวเลยเอว และเมื่อใช้พลังธาตุหิน สีอำพันบนผมจะเปล่งประกายเช่นกัน

เครื่องแต่งกายของจงหลีนั้นหรูหราและรัดรูป ประกอบด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีเบจ เสื้อคลุมมีสีน้ำตาลและสีเหลืองอำพัน กางเกงขายาวบางสีดำ รองเท้าบูทสีดำและถุงมือสีดำพร้อมแหวนสีเงินบนหัวแม่โป้ง ส่วนคอมีเน็คไทสีขาวตรึงที่คอหอยด้วยพลอยสีเหลืองอำพัน หูซ้ายมีต่างหูพู่ประดับอัญมณี นอกจากนั้นยังสวมเสื้อโค้ทหางยาวสีน้ำตาลเข้มและมีสีทองและสีเงินแซมอยู่ประปราย มีลายเกล็ดมังกร พู่สีทองและยังมีสัญลักษณ์เพชรของเร็กซ์ลาพิสที่ด้านหลัง เสื้อผ้านั้นยังประดับด้วยสัญลักษณ์เพชรที่แขนเสื้อ, เข็มขัด, กางเกง, กระดุมเอวและกระดุมเสื้อคลุม เช่นเดียวกับเวนติ เนื่องจากเป็นเทพที่มีโนซิส วิชั่นที่ฝังอยู่บนโซ่ที่ด้านหลังจึงไม่มีอะไรมากไปกว่าของปลอม

จงหลียังเคยปรากฏตัวเป็นมังกรจีนสีน้ำตาลและสีเหลืองอำพันที่มีสีทองแซมนามว่า Exuvia

เนื้อเรื่องตัวละคร

ข้อมูลตัวละคร

ในเรื่องเล่าของ Liyue นั้น “การอัญเชิญเซียน” และ “การส่งเซียน” นั้นเป็นเรื่องสำคัญพอๆกัน

แต่ไม่มีใครเข้าใจ “การส่ง” ดีไปกว่าตระกูล Hu ผู้สืบทอดกิจการ “โถงแห่งการเกิดใหม่” มาถึงเจ็ดสิบเจ็ดรุ่น แต่ตัวของ Hu Tao หัวหน้าของ “โถงแห่งการเกิดใหม่” นั้นยังคงให้ความสำคัญกับพิธีส่งของมนุษย์มากกว่า การส่งเทพเจ้านั้นก็มีพิธีกรรมที่แตกต่างกัน

ซึ่งเขาได้มอบหมายให้ Zhongli ผู้เป็น “เพื่อนร่วมอาชีพ” เป็นคนจัดการ

เซียนและ Liyue นั้นอยู่คู่กันมานานมาก ในช่วงเวลาสามพันปีนั้นมีคนขึ้นมาบนสวรรค์น้อยมาก พูดได้ว่าประเพณีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องนั้นล้วนแต่อาศัยสิ่งที่บันทึกอยู่บนกระดาษทั้งสิ้น.. ระยะเวลามันห่างกันมากเกินไป มันไม่ใช่เรื่องที่คุณสามารถเห็นได้ตอนยังเป็นเด็กอมมือ และได้เห็นอีกครั้งเมื่อตอนคุณแก่จนเคี้ยวหมากไม่ไหว

แต่ถึงแม้นักวิชาการโบราณที่หมกมุ่นอยู่กับเอกสารโบราณต่าง ๆ จะพยายามหาที่ติอย่างไร ก็ยังหาข้อบกพร่องของพิธีส่งเซียนที่ “โถงแห่งการเกิดใหม่ Wangsheng” จัดไม่เจอ

ไม่เพียงแต่เครื่องประดับของพิธีกรรมเท่านั้นที่ควรเป็นไปตามกฎ เวลาสถานที่ และเครื่องใช่ในพิธีรวมถึงสภาพอากาศของวันนั้น ระยะเวลาของพิธีกรรม จำนวนคนที่เข้าชม หน้าที่การงานและอายุของเข้าร่วมพิธีกรรม….ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนอยู่ในพิธีกรรมไม่มีผิดเพี้ยนสักอย่าง

เมื่อผู้คนหยิบยก “ตำนานที่ยังมีชีวิต” ขึ้นมาเพื่อบ่งบอกถึงตัวตนของ ZhongIi เขากลับทำแค่เพียงยิ้มเจื่อน ๆ และก็ถอนหายใจ:

“ฉันก็แค่… ความจำดีเท่านั้นเอง”

เรื่องราวของตัวละคร 1

ที่ Liyue หากมีสักคนที่สนใจในรายละเอียดมากเป็นพิเศษ สร้างมาตรฐานให้กับสิ่งของทุกสิ่งทุกอย่าง จนสามารถใช้คำหนึ่งคำมาอธิบายได้: “ช่างเลือก”

จริงๆแล้วทุกคนนั้นมีความช่างเลือกอยู่ไม่มากก็น้อย ยกตัวอย่างเช่น ไม่ชอบกินเผ็ด, ไม่กินปลา, แต่เต้าหู้ต้องหวานเท่านั้น…

Zhongli นั้นช่างเลือกแบบสุดๆกับทุกอย่าง

ชีวิตของเขานั้นเป็นประเภทแม้จะฟังละครเพลงก็ต้องเลือกที่ดีและโด่งดังที่สุด, จะเลี้ยงนกก็ต้องเลือกนกที่มีราคาแพงที่สุด, จะลิ้มลอง “เค้กขนมไข่” ก็ ต้องวิ่งเข้าไปถึงในครัวเพื่อคอยกำกับพ่อครัวในสัดส่วนการผสมไข่ กังแห้งและเนื้อปลา

Zhongli นั้นชำนาญด้านเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับและเครื่องชาม เหล้ายาปลาปิ้ง ใบชา ดอกไม่ใบหญ้าหมูหมากาไก่ ทั้งหมดนั้นสามารถกลายเป็นการค้าขายได้ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการเมืองและประเทศทั้งเจ็ด แต่ปกติแล้วเขาจะเล่าถึงความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์กับคุณ เพราะเค้าอยากจะแชร์แค่เรื่องพวกนี้กับคุณเท่านั้น

เรื่องราวของตัวละคร 2

จะซื้อของก็ต้องต่อรองราคา

นี่คือสิ่งที่ผู้คนใน Liyue ต่างรู้กันดี ไม่ว่าพ่อค้าจะโม้ถึงสิ่งของของตนว่าดีเลิศแค่ไหน จะเป็นของสุดคลาสสิกหรือของทางประวัติศาสตร์ ล้วนต้องต่อรองราคาทั้งสิ้น ส่วนใหญ่นั้นจะเริ่มจากต่อครึ่งราคาตั้งแต่แรกเริ่ม

แต่ในเวลาที่ Zhongli จ่ายเงิน (หรือใช่ให้คนอื่นจ่าย) แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมองราคา ขอแค่เขาถูกใจของสิ่งนั้น ไม่ว่าเถ้าแก่จะเรียกเท่าไหร่ เขาก็จะจ่ายเท่านั้น บางที่ยังเพิ่มเงินให้อีกพร้อมกับพูดว่าเอาไปซะ

ยังไงก็ตามไม่รู้ว่าทำไม Zhongli นั้นมักจะลืมพกเงินอยู่บ่อยๆ

เงินจำนวนน้อยก็ให้เพื่อนจ่ายแทน เงินมากหน่อยก็หาข้ออ้างไปเบิกเงินเอา

เมื่อพูดถึงการประจบประแจง เมื่อมองดูเหล่านักธุรกิจทั้งหลายแล้ว Zhongli นั้นดูจะมีคุณลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนใครอยู่: เขานั้นเข้าใจดีถึงความ

หมายของเงินทองและคุณค่าของมัน และก็เข้าใจความทุกข์ร้อนของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับไม่เข้าใจคำว่า “จน” ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจปรากฎใน ชีวิตประจำวันของตัวเองเลย

จะพูดได้ว่าเขาไม่สามารถจินตนาการถึงตอนที่ตนเองไม่มีเงินได้เลย

นั่นมันสุดยอดจริง ๆ เลย คนแบบนี้ยังไม่อดตายได้ไงเนี่ย

เรื่องราวของตัวละคร 3

Zhongli นั้นไม่มีทางอดตาย

ความรวยจนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ Zhongli ต้องใส่ใจมากนัก เจ็ดประเทศและโลกต่างหากที่เป็นที่เป็นขอบเขตที่เขาต้องเหนื่อยทั้งใจและกาย

เมื่อพูดถึงความมั่งคั่ง…ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นความมั่งคั่ง

“ราชาแห่งหิน” ผู้ปกครอง Liyue เทพแห่งหินผู้เป็นหนึ่งในเจ็ดเทพ Morax ต้นกำเนิดของเงินสกุล Mora ที่ถูกใช้กันไปทั่วทั้งทวีป Teyvat

เมื่อถึงตอนดึกและความวุ่นวายของท่าเรื่อ Liyue ได้สงบลง บางครั้งเขาจะขึ้นไปยังบนภูเขาหินสูงและจ้องมองลงไปยังเมืองที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยมือของตนเอง

ในใจของผู้คนชาว Liyue นั้น “ราชาแห่งหิน” นั้นมีชื่อเรียกมากมาย

เมื่อเขาออกกฎหมายสำหรับท่าเรื่อ Liyue ด้วยอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์เขาก็คือ “เทพเจ้าแห่งพันธสัญญา”

เขาหลอม “Mora” ขึ้นมาเป็นครั้งแรกซึ่งนั่นทำให้ท่าเรือ Liyue เป็นรากฐานทางการค้า ดังนั้นเหล่านักธุรกิจจึงเคารพเขาในฐานะ “เทพเจ้าแห่งธุรกิจการค้า”

ขาผ่านสิ่งต่าง ๆ มานานนับไม่ถ้วนและเป็นผู้ที่เก่าแก่ที่สุดในเจ็ดเทพ พวกนักประวัติศาสตร์ต่างเรียกเขาว่า “เทพเจ้าแห่งประวัติศาสตร์”

เมื่อหลายพันปีก่อนเหล่าบรรพชนของท่าเรือ Liyue ได้มายังดินแดนอันรกร้างว่างเปล่าแห่งนี้ บางครั้งพวกเขานำหินมาสีกันเพื่อทำให้เกิดประกายไฟบางครั้งก็นำหินมาก่อเป็นเตา พรที่มาจาก “หิน” เหล่านี้นั้นทำให้ผู้คนเรียกเขาว่า “เทพเจ้าแห่งเตาไฟ”

ชาวต่างชาติมักจะเรียกเขาว่า Morax แต่ชาว Liyue นั้นชอบที่จะเรียกเขาว่า “ลอร์ดแห่งหิน” มากกว่า

สำหรับใจของผู้ที่ชื่นชอบโอเปร่าและพวกเด็ก ๆ นั้น ฐานะของ Morax ยังเป็น “เทพนักรบ” ที่น่าสนใจที่สุดบนเวทีที่คอยกวาดล้างกองทัพเทพอสูร,สร้างและปกป้อง Liyue

“ลอร์ดแห่งหิน” ขนมแสนอร่อยที่ถูกค้นพบขณะกำลังหลงทาง, “ลอร์ดแห่งหิน” เขียนป้ายร้านด้วยตัวของท่านเอง, “ลอร์ดแห่งหิน” เคยแสดงในโอเปร่าที่มีชื่อเสียง ขนบธรรมนียมและสภาวะในท้องถิ่นของ Liyue ในแต่ละแห่งนั้นได้รับการศึกษาอย่างรอบคอบ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการดูแลจากเทพโดยตรงในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ผู้คน Liyue นั้นภูมิใจในประวัติศาสตร์การเดินทางร่วมกันกับเทพเจ้าเป็นอย่างมาก

เรื่องราวของตัวละคร 4

ในฐานะผู้ก่อตั้งท่าเรือ Liyue สิ่งที่ Morax ให้ความสำคัญที่สุดในเมืองแห่งธุรกิจการค้านี้ก็คือ “พันธสัญญา”

จากสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดอย่าง “การแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วยเงินตรา” สัญญาระหว่างนักธุรกิจที่ร่วมลงนามกันไปจนถึงกฎหมายโบราณที่ Morax ตั้งขึ้นมา ในตอนที่ก่อตั้งเมือง Liyue “พันธสัญญา” นั้นมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง

ซึ่ง “พันธสัญญา” สำหรับนักธุรกิจยังเป็นเกณฑ์ที่สำคัญที่สุด: วันที่ส่งมอบ, รายการส่งมอบ, สถานที่จัดส่ง… มีเพียงการสั่งซื้อที่ดีและเข้มงวดเท่านั้นที่สามารถทำให้กิจกรรมทางธุรกิจมีพลังที่แข็งแกร่งได้ และธุรกิจก็เป็นรากฐานของท่าเรือ Liyue

ดังนั้นไม่เพียงแต่จะเชื่อฟังคำทำนายของ Morax เท่านั้น แต่ยังเพื่อให้ท่าเรือ LiVue นั้นคงอยู่ตลอดไป ซึ่ง “Liyue Qixing” จะไม่ยอมทนต่อใครก็ตามที่ละเมิดกฎหมาย

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานนับพันปีนั้น ‘Liyue Qixing” รุ่นแล้วรุ่นเล่าได้อุทิศตนให้กับงานการตีความหมายของกฎหมายโบราณ เติมเต็มช่องโหว่ต่าง ๆ ที่พบในกฎหมายด้วย “กฎหมายเสริม” ที่ละเอียดถี่ถ้วน ส่วนที่เหลือที่ยังไม่ถูกค้นพบกลับถูกเหล่านักธุรกิจมองว่าเป็น “กฎหมายไม่ห้ามก็สามารถทำได้” เพื่อให้พวกเขาสามารถกอบโกย Mora จำนวนมากได้จนกว่าจะถูกพบโดย “Liyue Qixing” และเติมช่องโหว่ทางกฎหมายใหม่อย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางการไล่ต้อนเพื่ออุดช่องว่างที่เหมือนกับเกมการชักเย่อนั้น หนังสือเกี่ยวกับการตีความกฎหมายของกฎหมาย Liyuegang “กฎหมายเสริม” มีขนาดใหญ่ถึง 279 หน้า

ซึ่ง “Tianquan” ผู้รับผิดชอบในการแก่ไขหนังสือเล่มนี้ในสมัยปัจจุบัน Ningguang นั้นถูกผู้คนแอบตั้งชื่อเล่นว่า “ช่างตัดเสื้อแห่ง Liyue” เพื่ออธิบายถึงความเร็วในการแก่ไขและเติมเต็มกฎหมายของ Liyue และวิสัยทัศน์ของเธอ…

แต่ไม่ว่ากฎหมายของพวกมนุษย์นั้นจะซับซ้อนและยุ่งยากเพียงใด ในหัวใจของ “ราชาแห่งหิน” นั้นก็มีเพียงกฎหมายข้อเดียวที่สูงส่งกว่าสิ่งอื่นใด:

“เมื่อสัญญาเสร็จสมบูรณ์ ผู้ที่คืนคำจักต้องถูกหินลงทัณฑ์”

เรื่องราวของตัวละคร 5

ในฐานะที่เป็นเทพที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาเจ็ดเทพ “ราชาแห่งหิน” นั้นได้ผ่านวันเวลามาเป็นเวลายาวนานมาก ๆ แล้ว”ราชาแห่งหิน” ยังคงจำได้ว่าเมื่อเปลวไฟแห่งสงครามเทพอสุรมอดดับลง เทพอสุรทั้งเจ็ดตนได้ขึ้นไปยังสถานที่ของ “เทพเจ้า” ซึ่งนั่นคือจุดสิ้นสุดของยุค “สงครามเทพอสูร” โดยแม้ว่าพวกเขาจะมีบุคลิกที่แตกต่งกันมากและอยู่ห่างกันไกลแสนไกล แต่พวกเขาต่างก็แบกรับความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์ของ “การชี้นำมนุษย์”

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เจ็ดเทพเองก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จนถึงทุกวันนี้เหล่าเจ็ดเทพในยุคสมัยเริ่มต้นนั้น มีเพียง “ราชาแห่งหิน” และเทพแห่งสายลมที่อิสระ สองท่านที่ยังคงอยู่

เทพผู้เก่าแก่เป็นอันดับสอง เทพแห่งสายลมผู้ร่าเริงและมากด้วยอิสรภาพ Barbatos

เมื่อ Barbatos มาที่ Liyue เป็นครั้งแรกเมื่อสองพันปีก่อน ปฏิกิริยาแรกของ “ราชาแห่งหิน” ก็คือเพื่อนร่วมงานคนนี้คงประสบปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่และต้องการความช่วยเหลือจากเขา

ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรอให้ Barbatos ลงมาจากสายลม เทพเจ้าแห่งหินก็พร้อมที่จะต้อนรับเทพแห่งบ้านใกล้เรือนเคียงแล้ว ขอเพียงแค่เอ่ยปากแล้วเขาจะทำให้ดีที่สุดแต่เทพเจ้าแห่งสายลมกลับส่งเหล้าขวดหนึ่งให้เขา

“นี่คือเหล้าจากเมือง Mondstadt คุณจะลองหน่อยมั้ย?”…เพื่อส่งเหล้าแค่ขวดเดียวถึงกับละทิ้งหน้าที่ของตนเอง เหลือเชื่อจริง ๆ

อย่างไรก็ตามเทพเจ้าแห่งสายลมนั้นยังคงมาเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เขาเดินทางไปรอบๆ ท่าเรือ Liyue และถามคำถามแปลกๆ ต่างๆ นานา อยู่เสมอความอยากรู้อยากเห็นของเทพเจ้าแห่งสายลมท่านนี้นั้นไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกับเหล้าในมือของเขา

จากนั้นเป็นต้นมาเหล่าเทพเจ้าในสมัยนั้นจึงมักจะรวมตัวกันที่ Liyue เสมอจนถึงทุกวันนี้ “ราชาแห่งหิน” ยังคงจดจำรสชาติของเหล้าเหล่านั้นได้

หลังจากนั้นมาโลกก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดหย่อนและทุกสิ่งที่เขาเคยคุ้นเคยก็ล้วนแต่ค่อย ๆ หายไปเมื่อการเปลี่ยนแปลงของเจ็ดเทพเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เทพเจ็ดตนที่เคยดื่มร่วมกันนั้นได้จากโลกนี้ไปแล้วถึงห้าตน

ความรับผิดชอบที่มีมาแต่โบราณของพระเจ้าทั้งเจ็ดในการ “ชี้นำมนุษย์” ในตอนแรกเริ่มนั้น ในที่สุดก็เริ่มถูกเหล่าเทพที่ขึ้นมาใหม่มองว่าเป็นสิ่งไร้สาระไปซะแล้ว

เป็นเวลากว่าสามพันปีที่ผ่านมา แม้แต่หินที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังสามารถสึกกร่อนได้

อีกทั้งสายลมก็ไม่ได้ไปเยี่ยมหาเขาอีกต่อไป

ในช่วงกลางวันของวันที่มีฝนปรอยวันหนึ่ง ราชาอันเก่าแก่ไปเดินเล่นที่ในท่าเรือ Liyue และบังเอิญได้ยินนักธุรกิจคนหนึ่งชื่นชมลูกน้องของเขาอยู่:”เธอทำงานเสร็จแล้วนี่ ไปพักซะสิ”

“ราชาแห่งหิน” หยุดอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่จอแจอยู่ครู่หนึ่ง

“หน้าที่ของฉัน… ก็เสร็จแล้วเหมือนกันรึเปล่านะ?”

เทพเจ้าได้ถามต่อตนเองเช่นนั้น

ผลิตภัณฑ์ที่มาจากทะเล

ช่วงสงครามเทพอสูร ทุกหนทุกแห่งบนดินแดน Teyvat นั้นเต็มไปด้วยไฟแห่งสงคราม สงครามไม่เพียงเกิดขึ้นระหว่างเทพอสูรยังมีสิ่งชั่วร้ายมากมายที่ขยายอาณาจักรในช่วงเวลานี้

หนึ่งในนั้นมีมอนสเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ “เทพแห่งหิน” ที่ยังไม่ได้เป็นเทพทั้งเจ็ดนั้นรู้สึก หงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง

มอนสเตอร์เหล่านี้มาจากใต้ทะเลลึก มีผิวที่นุ่มและเต็มไปด้วยเกล็ด มือเท้าคล่องแคล่ว ถึงจะถูกตัดแขนตัดขาก็ยังคงมีชีวิตต่อไปได้ ยังสามารถคายของเหลวที่เหนียวและเปียกขึ้น…

แค่ลักษณะพิเศษที่เอ่ยถึงก็น่าขยะแขยงพอแล้ว แต่นี่ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

ประเด็นสำคัญคือ: พวกมัน “เล็ก” มาก เหมือนดังว่าพวกมันอยู่ทุกหนแห่งโต๊ะเก้าอี้ ขอบประตูหน้าต่าง ผ้าม่านเสื้อผ้า หรือแม้แต่แก้วชา หนังสือหรือกล่องดินสอ

แค่ยื่นมือออกไปก็อาจจับโดนสิ่งที่เย็น เหนียวและเปียกนั้นได้ มอนสเตอร์เหล่านี้เมื่อถูกผู้คนจับก็จะรีบไต่ไปที่หลังมือ และจะทิ้งร่องรอยใส ๆ เอาไว้…

ตามคำอ้อนวอนจากบรรพบุรุษของชาว Liyue ท่าน Morax รับปากที่จะกำจัดมอนสเตอร์ชนิดนี้ แต่มอนสเตอร์เหล่านี้คอยเกาะอยู่ในสังคมของมนุษย์ซึ่ง Morax ไม่อาจกำจัดพวกมันอย่างในสนามรบ จึงได้โยนหอกหินมากมายออกไป จนแผ่นดินสนั่น

แต่ว่า Morax คือ “เทพแห่งพันธสัญญา” ของคนรุ่นหลัง ดังนั้นสิ่งที่เขาเคยตกลงไว้ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็จะต้องทำสำเร็จ

ด้วยภาระแห่งสัญญาที่เคยให้ไว้ เขาเริ่มค้นหาและกำจัดมอนสเตอร์เหล่านี้ในคุกหินเล็ก ใหญ่…

หลังจากระยะเวลาอันยาวนานในการกำจัดมอนสเตอร์เหล่านี้จบสิ้นลง Morax พึ่งจะเข้าใจ “ยกภูเขาออกจากอก” นั้นเป็นเช่นไร

การกำจัดศัตรูและมอนสเตอร์ที่น่รำคาญถึงจุดสูงสุดและยังส่งกลิ่นเหม็นและของเหลวที่น่าขยะแขยง เขายังจำได้ไม่มีวันลืม

การกลายร่างเป็นมนุษย์ Zhongli ใช้ชีวิตในเมืองท่าเรือ ก็ยังคงพยายามใช้ชีวิตที่ห่างไกลสัตว์น้ำที่เลื้อยขยุกขยิก

แต่สำหรับอาหารที่สับจนดูไม่ออกรูปร่างที่แท้จริงอย่างเต้าหู้ทะเลก็สามารถรับประทานได้

โนซิส

หลังจากพิธีกรรม “ส่งเซียน” จากการกำกับโดย Zhongli เสร็จสิ้น “Signora” แห่ง Fatui ได้ปรากฏต่อหน้าของเขา

ตาม “พันธสัญญา” ที่เคยตกลงกันไว้ เธอมาเพื่อมารับ “โนซิส” ของเทพแห่งหิน Morax

ต่อหน้านักเดินทางและผู้บริหารทั้งสองท่านของ “Fatui” ซึ่ง Zhongli ได้เปิดเผยของตกลงระหว่าง “เทพแห่งน้ำแข็ง”

ตามที่เขากล่าว นี่คือช่วงเวลาท้ายสุด ในการตกลง “สัญญาที่ยุติสัญญาทั้งหมด”

แต่ไม่ว่าจะมองในมุมไหน ข้อแลกเปลี่ยนในข้อตกลงครั้งนี้สิ่งที่เทพแห่งหินเอาเข้าแลกก็มากจนเกินไป แม้แต่อำนาจในการปกครองเมือง Liyue ก็หมดไปด้วย…

ถึงแม้จะเป็นมนุษย์กันเอง กฎเหล็กของข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนก็คือ “แลกเปลี่ยนในมูลค่าที่เท่าเทียม”

แต่สำหรับเทพแห่งหินที่ให้ “คำสัญญา” นับร้อยพันมาตลอดพันปี คำสัญญาที่สำคัญดังนี้ ก็ต้องมีผลกำไรที่ทำให้เขาคิดพิจารณาล่ะ

และตอนนี้เทพแห่งหินก็ได้นำ “โนซิส” เป็นข้อแลกเปลี่ยนมอบออกไปแล้ว

เทพแห่งน้ำแข็งได้วางข้อแลกเปลี่ยนขนาดไหนกันแน่ ถึงสามารถทำให้ตาชั่งการแลกเปลี่ยนนี้สมดุลเท่าเทียมกัน?

นามบัตร

กลุ่มดาว

Lapis Dei
 Zhongli
ความหมาย:
เทพแห่งหิน

การโต้ตอบของตัวละคร

ตัวละครต่อไปนี้กล่าวถึง Zhongli ในเรื่องราวของตัวละครหรือเสียงพากย์

ตัวละคร เรื่องราว เสียงพากย์
Beidou
Chongyun
Ganyu
Hu Tao
Keqing
Ningguang
Raiden Shogun
Tartaglia
Venti
Xiangling
Xiao
Xingqiu
Xinyan
Yanfei

เควสต์และกิจกรรมที่ปรากฏ

เควสต์เทพเจ้า

  • บทที่ 1
    • ฉากที่ 2: ลาก่อนเทพโบราณ
      • ปรากฏทุกตอน
    • ฉากที่ 3: ดาราใหม่ฉายแสง
      • กลิ่นของความเดียวดาย
      • ส่งเซียน

เควสต์ระดับตำนาน

  • บทแห่งอดีตกาล (เควสต์ระดับตำนานของ Zhongli)
    • ฉากที่ 1: บทแห่งดอกเกลือ
      • ปรากฏทุกตอน
    • ฉากที่ 2: หินพิศวง
      • ปรากฏทุกตอน

กิจกรรม

  • แสงนวลเคล้าจันทร์
    • ผ่านหกสัมผัส รื่นเริงเจ็ดเทพเซียน กลิ่นหอมจากแปดทิศ ไปถึงเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า สิบเปรมปรีดา

กิจกรรมในเว็บ

  • บันทึกการเดินทางสู่ท่าเรือมหัศจรรย์
  • ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
  • การเดินทางแห่งความทรงจำ
0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *